วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
สวัสดีค่ะวันนี้ก็นำเอาความรู้และสาระที่น่าสนใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์บนท้องฟ้ามาฝากกันต่อในเรื่องของฝนดาวตก (meteor shower) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดดาวตกจำนวนมากในอัตราที่ถี่กว่าปกติ ในสภาวะปกติที่ไม่มีฝนดาวตกนั้น จะเกิดดาวตกประมาณ 10 ดวงต่อชั่วโมง แต่ในช่วงที่เกิดฝนดาวตก จะมีดาวตกเกิดขึ้นมาก อาจจะถี่ถึงหลายสิบดวงหรือกว่าร้อยดวงต่อชั่วโมง
สาเหตุที่มีฝนดาวตกนั้น เกิดจากการที่โลกโคจรเคลื่อนที่ฝ่าเข้าไปในธารอุกกาบาต สะเก็ดดาวเหล่านี้เป็นเศษขยะที่เกิดจากดาวหางเคยโคจรผ่านเข้ามา เมื่อดาวหางผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน จะเกิดการระเหิดของมวลสารออกไปเป็นสิ่งที่เราเห็นปรากฏเป็นหาง ของดาวหาง ฝุ่นที่ถูกพ่นออกไปนี้ จะคงอยู่ตามเส้นทางโคจรของดาวหางเดิม
แม้ดาวหางจะโคจรผ่านไปแล้วก็ตาม เมื่อโลกโคจรฝ่าเข้าไป ฝุ่นเหล่านั้นก็จะตกลงสู่บรรยากาศโลกกลายเป็นดาวตก เนื่องจากอัตราการตกนี้ถี่กว่าอัตราการตกในสภาวะปกติ เราจึงเรียกว่า ปรากฏการณ์ฝนดาวตก ดาวตกที่เกิดขึ้นจะดูเหมือนกับว่ามีทิศทางมาจากจุด ๆ หนึ่ง บนท้องฟ้า ซึ่งเรียกว่า เรเดียนต์
ฝนดาวตกใดมีเรเดียนต์ อยู่ที่กลุ่มดาวใด ก็จะมีชื่อตามกลุ่ม ดาวนั้น เช่น ฝนดาวตกกลุ่มดาว สิงโต มีจุดเรเดียนต์อยู่ในกลุ่มดาว สิงโต ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ มีจุดเรเดียนต์อยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ เป็นต้น
การสังเกตฝนดาวตกเป็นการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ง่ายที่สุดและลงทุนน้อยที่สุดเราเพียงใช้ตาเปล่ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า มองให้กว้าง ๆ ไม่ต้องเพ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่ง ดาวตกจะเกิดขึ้นได้เกือบทั่วทั้งท้องฟ้ายกเว้นบริเวณที่อยู่ตรงข้ามกับจุดเรเดียนต์
การเฝ้ารอฝนดาวตกนั้น จำเป็นต้องแหงนดูท้องฟ้าเป็นเวลานานและค่อนข้างต่อเนื่อง การยืนหรือนั่งดูจะเมื่อยคอมาก จึงมีข้อแนะนำว่าควรจะนอนดูมากกว่า อาจจะใช้เก้าอี้พับหรือปูเสื่อนอนดูก็ได้ นับเป็นการสังเกตการณ์ที่เหมาะกับกิจกรรมเล่นสนุกกับเพื่อนฝูงอย่างยิ่ง
ปรากฏการณ์เฝ้ารอมหัศ จรรย์จากท้องฟ้าในครั้งนี้ อย่างที่บอกไป ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เกี่ยวข้องเช่นพวกกล้องดูดาว กล้องโทรทรรศน์ แต่ใช้เพียงตาเปล่าเท่านั้น หากใช้กล้องดูดาวหรือกล้องโทรทรรศน์อาจไม่เห็นอะไรเลยก็เป็นได้
สนติดตามข่าวสารข้อมูลได้ที่ http:// thaiastro.nectec.or.th
อ้างอิงจาก : http://www.yoye.com/highlight/display.php?id=109 วันที่ 13 กรกฏาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น